กับข้าวจานเด็ดที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ร้านนี้ใคร ๆ เรียกกันติดปากว่า ร้านข้าวต้มเฮียฮวดท่าฉลอม ซึ่งเปิดมานานกว่า 80 ปี
ถึงช่วงเทศกาลหยุดยาวทีไร บรรดาพวกเราชาวไทยชอบขับรถเดินทางไกลมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม คราวนี้จึงขอแนะนำร้านอาหารที่สามารถแวะฝากท้องอิ่มอร่อยระหว่างทางที่จะขึ้นเหนือล่องใต้ รับรองว่าเมื่อได้ชิมแล้วจะมีความสุขไปตลอดทั้งทริปเลย เริ่มกันด้วยเส้นทางสายใต้ มาตามถนนพระราม 2 ตอนนี้มีการก่อสร้างทางยกระดับทำให้การจราจรคับคั่งชะลอตัว อย่ากระนั้นเลยขอเชิญชวนให้แวะเติมพลังยามเช้ากันด้วยข้าวต้มพุ้ยแสนอร่อย กับข้าวจานเด็ดมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ร้านนี้ใคร ๆ เรียกกันติดปากว่า ร้านข้าวต้มเฮียฮวด ท่าฉลอม เปิดมานานกว่า 80 ปีแล้ว พอเห็นชื่อร้านปิดท้ายว่าท่าฉลอม คงร้องอ๋อไปตาม ๆ กันว่านี่คือตำบลหนึ่งของจังหวัด สมุทรสาคร ในยามปกติจะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ชั่วโมงเดียว (แต่ในช่วงสงกรานต์เช่นนี้อาจจะต้องเพิ่มเวลาเดินทางเป็นสองเท่า)
ทางไปร้านนั้นให้มาตามถนนพระราม 2 พอเลยตัวเมืองสมุทรสาครให้รีบออกทางคู่ขนาน (ห้ามลืมเป็นอันขาด) แล้วขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน สะพานด้านซ้ายสุดเท่านั้น เพราะเมื่อข้ามไปแล้วจะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าท่าฉลอมทันที วิ่งไปตามถนนสุทธิวาตวิถีเกือบ 5 กม. ผ่านวัดช่องลม จนมาถึงวงเวียนท่าฉลอม วนขวารอบวงเวียนไปออกทางออกที่ 3 เข้าถนนโสมนัสมรรคา เพียงแค่ 100 เมตร ก็จะเห็นตึกแถว 2 คูหาเก่าแก่สีชมพูอ่อนอยู่ทางด้านขวา จอดรถกันได้เลย ถึงร้านข้าวต้มเฮียฮวดแล้วจ้า (ค้นหาในกูเกิ้ลแมพส์ว่า ข้าวต้มเฮียฮวด ท่าฉลอมได้เลยครับ)
ร้านนี้ไม่มีป้ายชื่อร้านแต่เป็นร้านขวัญใจของคนพื้นที่ จุดสังเกตคือหน้าร้านมีตู้กับข้าวอยู่ทางขวา มีชามอ่างใส่ขาหมูและต้มจับฉ่ายอยู่ถัดมา ด้านในสุดมีป้ายชื่อร้านเก่าว่า เจียบเฮงหลี วางอยู่บนตู้ แต่ทุกคนจะรู้จักกันในชื่อข้าวต้มเฮียฮวดมากกว่า
เฮียฮวดหรือคุณชัชวาล ศิริรัตนวุฒิ อายุ 80 ปีแล้ว ช่วยพ่อขายข้าวต้มมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ตอนนี้มีพี่อัญชลี ลูกสาวเป็นแม่ครัวเอกมาช่วยอีกหนึ่งคน พอเข้าไปดูคุณพี่ในครัว ไม่ว่าจะผัดทอดต้มเมนูอะไรดูง่ายไปหมด และทำออกมาได้อร่อยเหลือหลายอีกด้วย ก่อนอื่นรีบบอกว่าร้านข้าวต้มพุ้ยเจ้านี้เปิดกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ในช่วงบ่าย ๆ ไม่เกินบ่าย 3 โมงก็หมดเกลี้ยงแล้ว จึงเหมาะสำหรับเป็นจุดแวะพักแรกยามเช้าของการเดินทาง อยากกินอะไรให้ดูที่กระดาน ซึ่งอาจจะมีไม่เยอะ แต่ยังมีอาหารนอกเมนูอีกต่างหากด้วย เดี๋ยวจะบอกให้ว่ามาแล้วควรลิ้มลองอะไรบ้าง เริ่มกันด้วยเมนูอร่อยเด็ดที่ไม่ได้ขึ้นกระดานไว้ ห้ามพลาดเป็นอันขาด ยำปลาอินทรีเค็ม (100 บาท) เนื้อปลาอินทรีเค็มหอมสุด ๆ กลิ่นไม่แรง เค็มกำลังดีและไม่เละ ยำใส่หอมแดงกับพริกขี้หนู ปรุงมาครบรส เปรี้ยวเค็มตัดด้วยหวานเล็กน้อย น้องวัฒน์ชายกางเพื่อนร่วมทริปสอนว่าปลาอินทรีเค็มที่ดีเนื้อจะต้องมีสีชมพูเรื่อ ๆ อย่างที่เห็นในจาน
ท่าฉลอม-มหาชัยคือแหล่งปลาทะเลสด ๆ ดังนั้นเวลามาร้านข้าวต้มเฮียฮวดก็ต้องกินปลา ซึ่งมีจานปลานอกเมนูสุดยอดมาก ปลาผัดฉ่า (150-200 บาท) เป็นผัดฉ่าสไตล์จีน ใส่ขิงแก่ พริกสดและขึ้นฉ่าย เอาน้ำผัดฉ่ามาคลุกข้าวอร่อยเหาะหอมมาก ๆ เนื้อปลาวันนี้คือปลากะพงไซส์ใหญ่มาก ขนาด 11 กิโลกรัม (ตามปกติจะได้ตัวใหญ่ขนาด 7-8 กิโลกรัม) จึงได้เนื้อที่สดหวานหนังหนึบ อีกเมนูซิกเนเจอร์ของเฮียฮวดคือ ขาหมูน้ำแดง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (50-100-130 บาท) ขาหมูสีออกส้ม ๆ ไม่ได้นุ่มจนเปื่อยมาก แต่ก็นุ่มอร่อยไม่แห้งไม่ต้องออกแรงเคี้ยว หนังนุ่มหนึบ รสชาติออกเค็ม ๆ ไม่หวาน ราดด้วยน้ำส้มพริกตำเข้ากันดี
ส่วนของอร่อยประจำร้านที่ไม่ได้มีทุกวันคือ ปลาลิ้นหมาต้มเค็ม (จานนี้ตัวละ 60 บาท) รสเค็มอมหวานรสชาติเข้าเนื้อหอมอร่อย ปลาลิ้นหมาเป็นปลาที่หากินยาก พอได้มาแต่ละวันก็มีคนจับจองกันจนหมดเกลี้ยง ทางที่ดีให้โทรมาถามก่อนและรีบจองไว้ ต้องมาแต่เนิ่นๆตอนเช้าๆ น้องวัฒน์บอกว่าบางวันก็จะมีปลาทูต้มเค็มแทน ส่วนคนชอบกินเครื่องใน ต้องลองชิมไส้และเลือดหมูผัดพริกสด (150 บาท) ผัดใส่พริกชี้ฟ้ากับต้นหอม ไส้ชิ้นโตเต็มคำนุ่มหอม เลือดหมูสดและนิ่มมาก เคี้ยวดังกึ๊ด ๆ อย่าลืมแกล้มด้วยพริกสดเข้ากันดีมาก ๆ
วันนั้นเราสั่งกับข้าวอีกหลายอย่าง ทั้ง เป็ดทอดกระเทียมพริกไทย (200 –300 บาท) เอาเป็ดพะโล้มาคั่วกับกระเทียมพริกไทย เป็นเมนูยอดนิยมประจำร้านเช่นกัน อย่าลืมเอาเศษกระเทียมกรอบ ๆ มาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆด้วยนะจ๊ะ ต่อด้วยเมนูน้ำ ๆ ซด ๆ ปลากะพงต้มเกี้ยมบ๊วย (150 บาท) ได้ซดน้ำซุปเปรี้ยวหอมชื่นใจ ตามด้วยเนื้อปลากะพงสด ๆ เมนูนี้แนะให้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ
ส่วนไข่เจียวมีให้เลือกหลายเมนู เด็ดไม่ซ้ำใครคือ ไข่เจียวกระเทียมดอง (80 บาท) ใส่กระเทียมดองฝานเป็นเส้นๆรสเปรี้ยวอมหวาน ไข่เจียวใส่ไชโป๊วก็ดีเช่นกัน เจียวมาเกรียมๆหอม ๆ ปิดท้ายด้วยผัดผักบุ้งไฟแดง (80 บาท) ผัดได้กรอบอร่อยมาก ๆ ซึ่งราคาอาหารจะเริ่มต้นที่จานละ 50 บาท (ขาหมูจานเล็ก) แต่ทางร้านจะดูจำนวนคนที่มา กับข้าวบางอย่างจะเริ่มต้นที่ 150 บาท ถึงอย่างไรก็สนนราคาดีงามเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณอาหาร
ร้านข้าวต้มเฮียฮวดเปิดทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเช้า เก็บร้านตอนบ่าย 3 โมง หยุดช่วงสารทจีน สงกรานต์กับตรุษจีน ซึ่งพี่อัญชลีบอกว่าปีนี้น่าจะหยุด 13-15 เมษายนแค่ 3 วัน ดังนั้นถ้าใครเริ่มล่องใต้แต่เนิ่นๆช่วง 11-12 เมษายนเชิญแวะเติมพลังด้วยกับข้าวต้มกันได้ ลองโทรไปสอบถามกันก่อนว่าร้านเปิดหรือเปล่า หากไปแล้วหยุดไปเก้ออดทานนะครับ